มีคนบอกเกี่ยวกับเรื่อง เวลาว่า “เวลาเป็นสมบัติที่มีค่า” ที่พระเจ้าให้ทุกคนเท่ากัน คือ 24 ชั่วโมง หรือ 1440 นาที หรือ 86,400 วินาที ต่อวัน ทุกวันเราทุกคนจะได้รับมีสมบัติที่เรียกว่า เวลา คนละ 86,400 วินาที เราได้ใช้สมบัตินี้ในทางที่เกิดประโยชน์หรือไม่ หรือปล่อยให้ ”เวลา” สูญเสียไป เพียงเพราะคิดว่าพรุ่งนี้ก็ได้ใหม่อีก เวลามีเยอะเลยใช้อย่างฟุ่มเฟือย บุคคลผู้ประสบผลสำเร็จล้วนแล้วแต่รู้จักใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด รู้จักใช้เวลาอย่างเกิดประโยชน์
ผมเคยคิดแบบนี้สมัยที่ผมยังหนุ่ม ๆ เพราะคิดว่ามีเวลาเหลืออีกมาก แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าเวลาน้อยลงและรู้สึกว่าในหนึ่งวันนั้นหมดไปเร็วมาก มีความรู้สึกว่าเวลาของผมน้อยกว่าของคนอื่น เพราะมีความรู้สึกว่าวันหนึ่ง ๆ หมดไปโดยไม่ได้อะไรสักเท่าไหร่
สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเวลาของเราน้อยลงเพราะมีสิ่งที่ต้องทำมากขึ้น และไม่ได้นั่ง “ฆ่าเวลา” เพื่อให้วันหนึ่งหมดไป มีคนเคยบอกว่า คนที่นั่ง “ฆ่าเวลา” วันหนึ่งเขาจะถูก “เวลาฆ่า” เพราะเขาจะไม่ได้รับอะไรเลยจากเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ ลองตรวจสอบการใช้เวลาของเราว่าคุ้มหรือไม่ในแต่ละวัน มีกำไรขาดทุนหรือไม่
พี่น้องคงเคยอ่านพบข้อเขียนที่เปรียบเทียบเรื่องของเวลานี้ ทำให้เราเห็นถึงคุณค่าของเวลา
|
ในสายพระเนตรของพระเจ้า มนุษย์มีเวลาน้อยมาก ใน สดด.144:4 “มนุษย์เหมือนลมหายใจ วันเวลาของเขาเหมือนเงาที่ผ่านไป” เวลาเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเพราะมีน้อย เราจึงควรใช้ทุกวินาทีที่ผ่านไปให้เกิดประโยชน์มากที่สุดทั้งต่อตนเองและผู้ อื่น ให้สมกับที่พระเจ้าทรงเรียกเรามา
มีบทความหนึ่งพบในเน็ต น่าสนใจและน่าคิดเรื่องเวลา กับนาฬิกา บอกว่า “เวลา... เดินไปข้างหน้า นาฬิกา.. เดินอยู่ที่เก่า เวลา.. เราไม่อาจย้อนกลับ นาฬิกา.. เราหมุนย้อนมันได้ เวลา.. เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน นาฬิกา.. เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ไปเลย เวลา.. ได้มาฟรี ๆ ไม่ต้องแลกกะอะไร นาฬิกา.. ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน แต่ถามหน่อย.. ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว” |
นาฬิกาเป็นเพียง อุปกรณ์ที่เราใช้บอกเวลาเป็นรูปธรรม ทำให้เราเห็นเวลาที่มองไม่เห็น เป็นเวลาในเชิงสมมต พระเจ้าทรงยุติธรรมโดยมอบเวลาให้ทุกคนเท่ากันโดยไม่คำนึงถึงว่าคนรวยคนจน มีการศึกษาหรือไม่ ทุกคนได้เท่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนที่จะสามารถใช้เวลาอย่างเกิดประโยชน์มาก เพียงใด
เวลามีผลต่อชีวิตของเรา เพราะมันเป็นตัวกำหนดวาระและความเป็นไป เวลาทำให้ทุกสิ่งเกิด ขึ้นและทำให้ทุกสิ่งพังลง เวลาเปลี่ยนแปลงชีวิตเปลี่ยนแปลงสภาพ ในพระธรรม ปญจ.3:1 “มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์”
เมื่อเป็นอย่างนั้น ปัญหาไม่ใช่ที่เวลาและความเปลี่ยนแปลง แต่อยู่ที่เราจะผ่านเวลาเพื่อไปถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างไร จึงจะมีคุณภาพและเกิดผลมากที่สุด อย่ารอให้เวลาเร่งให้เราต้องเปลี่ยน แปลงหรือเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่คิดเสมอว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อสู่ความเปลี่ยนแปลงและมีชีวิตที่ เกิดผลเมื่อระยะเวลาผ่านไป เพราะยิ่งนานยิ่งต้องดีขึ้น เหมือนไวน์ยิ่งนานยิ่งรสชาติดีและราคาแพง
เวลาเราทุกคนเท่ากัน ด้วยเหตุนี้คนที่บอกว่า “ไม่มีเวลา” ก็ไม่สามารถมีเวลาเพิ่ม แต่เพียงเป็นข้อแก้ตัวมากกว่า เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิดความล้มเหลวเรื่องเวลาของตนเอง เพราะแท้จริงไม่ใช่ไม่มีเวลาแต่ไม่ได้บริหารอย่างถูกต้องมากกว่า ส่วนผู้ที่ฉลาดและจะประสบความสำเร็จเกิดผลดีในชีวิตเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัด ส่วนเวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเองได้อย่างลงตัว
วันนี้พี่น้องได้ใช้ เวลาอย่างเกิดผลขนาดไหน แต่อย่าคิดแต่จะใช้เวลาเพื่อแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองเท่านั้น ให้เราแบ่งเวลาเพื่อคนอื่น ๆ บ้าง มาลองคำนวณดูจากวันนี้ เรามีเวลาเหลือเท่าไหร่และจะใช้มันอย่างไร แล้ววันนี้เรายังจะอ้างเหตุผลว่า “ไม่มีเวลา” อีกหรือ ? เพิ่มเติม
บันทึกนี้เขียนโดย pimlada wongpanyapattana